วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

ระบบการผลิตการตลาด

ระบบการผลิต
ในปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ เพื่อลดต้นทุนจากการซื้ออาหารสัตว์จากบุคคล
อื่น 
และสูตรอาหารสัตว์เป็นไปตามความต้องการของสมาชิก การผลิตอาหารสัตว์แต่ละครั้งสหกรณ์จะใช้วัตถุดิบที่
แตกต่าง
ออกไปทั้งที่เป็นหัวและเป็นเม็ด เช่น มันเส้น ข้าวโพด เป็นต้น ดังนั้นต้องแปรสภาพวัตถุดิบให้เป็นผง หรือ
มีลักษณะ
เดียวกัน เพื่อให้การผลิตหรือผสมอาหารสัตว์ได้คุณภาพยิ่งขึ้น การผลิตอาหารสัตว์สหกรณ์ใช้วิธีโม่หรือ
เครื่องย่อย
วัตถุดิบให้เป็นผงก่อนที่จะไปสู่กระบวนการผลิตอาหารสัตว์ ในการผลิตอาหารสัตว์โดยทั่วไปแล้วจำเป็น
ต้องควบคุมการ
ผลิตให้เป็นไปตามสูตรอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นอาจจะมีผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงที่บริโภคได้ หาก
จำเป็นต้องเปลี่ยนวัตถุดิบ
บางตัวที่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต ก็ใช้วัตถุดิบที่มีคุณค่าอาหารใกล้เคียงกันมากที่สุด
ดังนั้น โดยปกติสหกรณ์จะมี
การกำหนดสูตรอาหารสัตว์ไว้ล่วงหน้า พร้อมทั้งกำหนดวัตถุดิบที่สามารถทดแทนกันได้
ในการดำเนินธุรกิจผลิตอาหาร
สัตว์สหกรณ์จะเตรียมวัตถุดิบเข้ากระบวนการผลิตอาหารสัตว์โดยจะจัดเก็บวัตถุดิบไว้
ในโกดังหรือไซโล ในการวางระบบ
บัญชีให้แก่สหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์จะต้องคำนึงถึงการควบคุม
ภายในของสหกรณ์แต่ละแห่งด้วย ซึ่งในที่นี้
ไม่ขอกล่าวถึง
ระบบบัญชีด้านการผลิตอาหารสัตว์
          สหกรณ์จะบันทึกรายการที่เกิดขึ้นในธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งจะมีรายการทางการเงินที่สำคัญ ได้แก่ การ
ซื้อ
วัตถุดิบ การขายวัตถุดิบและขายอาหารสัตว์สำเร็จรูป โดยจะบันทึกรายการในสมุดบันทึกรายการขั้นต้น คือ สมุด
ซื้อ
สินค้า และสมุดขายสินค้า แล้วผ่านรายการบัญชีจากสมุดบันทึกรายการขั้นต้นไปยังสมุดบันทึกรายการขั้นปลาย ได้แก่ สมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป และบัญชีย่อย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่บัญชีผลิตอาหารสัตว์มิได้เป็นผู้บันทึกรายการ
ดังกล่าว แต่
ฝ่ายบัญชี (สมุห์บัญชี) ของสหกรณ์จะเป็นผู้รับผิดชอบในการบันทึกรายการ ส่วนทะเบียนคุมสินค้า
(บัญชีสินค้าและ
วัตถุดิบ) เจ้าหน้าที่บัญชีฝ่ายผลิตอาหารสัตว์เป็นผู้บันทึกรายการ
รายงานทางบัญชี
          รายงานทางการเงินจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลที่จำเป็นและเป็นประโยชน์แก่คณะกรรมการ ผู้จัดการในการที่จะ
นำไป
วางแผน ประสานงาน และควบคุมการดำเนินงานของสหกรณ์ให้เป็นไปด้วยความเหมาะสมและรัดกุม ซึ่ง
ประกอบด้วย
รายงานต่าง ๆ ดังนี้
1. รายงานการผลิตอาหารสัตว์ เพื่อให้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการผลิตอาหารสัตว์ว่าเป็นชนิดใด
    และมี
ปริมาณเท่าใด ตลอดจนรายละเอียดการใช้วัตถุดิบและต้นทุนการผลิต
2. รายงานการเดินเครื่องอัดเม็ด (กรณีสหกรณ์ใช้เครื่องจักรในการผลิตอาหารสัตว์ ) เพื่อให้ทราบถึง
    กำลัง
การผลิตของเครื่องจักรต่อชั่วโมง จำนวนผลผลิตที่ได้ เวลาที่ใช้ในการผลิต สามารถนำไปใช้
    ประโยชน์ในการหา
ต้นทุนการผลิต
3. รายงานแผนกอาหารสัตว์ เพื่อให้ทราบถึงจำนวนอาหารที่ผลิตได้แต่ละสูตรในแต่ละวัน จำนวน
    อาหารสัตว์
ที่ขายและจำนวนอาหารสัตว์คงเหลือทั้งสิ้นถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าที่เท่าใด
4. รายงานสินค้า - วัตถุดิบคงเหลือ เพื่อให้ทราบถึงสินค้า – วัตถุดิบคงเหลือ ณ วันสิ้นเดือน
          วิธีปฏิบัติทางบัญชีเกี่ยวกับการดำเนินงานในธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ สำหรับวิธีปฏิบัติทางบัญชีเกี่ยวกับ
การดำเนิน
งานในธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ มีดังนี้
การซื้อวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์
เดบิต ซื้อสินค้าxxx
เครดิต
เงินสด/เงินฝากธนาคารxxx หรือ
เจ้าหนี้การค้า (กรณีซื้อเชื่อ)xxx
ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้การค้า
เดบิต เจ้าหนี้การค้า
xxx
เครดิต
เงินสด/เงินฝากธนาคารxxx หรือ  
การขายอาหารสัตว์
เดบิต เงินสด/ลูกหนี้การค้า
xxx
เครดิต
ขายอาหารสัตว์xxx
ได้รับชำระหนี้
เดบิต เงินสด
xxx
เครดิต
ลูกหนี้การค้าxxx
         
          อนึ่ง หลังจากบันทึกรายการในสมุดขั้นต้นแล้วให้ผ่านรายการไปสมุดบัญชีแยกประเภท และทะเบียนคุม
สินค้า
และบัญชีย่อยที่เกี่ยวข้อง สำหรับการจัดทำงบการเงินสหกรณ์จะต้องจัดทำงบการเงินที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนด
การคำนวณต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์
           เมื่อสิ้นสุดการผลิตอาหารสัตว์ สหกรณ์จะใช้ตารางการใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ ไปคำนวณหาต้นทุนการผลิต
อาหารสัตว์ ซึ่งมีวิธีการคำนวณต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ ดังนี้
ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ คือ ต้นทุนของโรงงานหรือของการผลิตอาหารสัตว์ทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องโดยทางตรง
และ
ทางอ้อมกับการผลิตอาหารสัตว์ การคำนวณต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ แบ่งออกเป็น
          1 . ต้นทุนการผลิตระหว่างงวด
          การคำนวณต้นทุนตามวิธีนี้จะอาศัยข้อมูลทางบัญชีที่สหกรณ์บันทึกบัญชีไว้ในระหว่างงวด หรือเดือนที่
ต้องการ
ทราบว่าสหกรณ์ใช้วัตถุดิบ ค่าแรงงาน และค่าโสหุ้ยการผลิตเป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งคำนวณต้นทุนแต่ละ
ประเภท
ได้ดังนี้
          วัตถุดิบทางตรง วัตถุดิบทางตรงที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ เช่น มันเส้น ข้าวโพด มะพร้าว กากปาล์ม รำหยาบ กากน้ำตาล แร่ธาตุ เป็นต้น คำนวณการใช้วัตถุดิบจากใบสั่งจ่ายวัสดุ แผนกอาหารสัตว์ หรือจากตาราง
แสดงการใช้วัตถุ
ดิบผลิตอาหารสัตว์ ในช่วงระยะเวลาที่คำนวณหาต้นทุนการผลิตงวดนั้น ๆ
          ค่าแรงงานทางตรง ได้แก่เงินเดือนและค่าจ้างของเจ้าหน้าที่แผนกผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งใช้ข้อมูลทาง
บัญชีที่
สหกรณ์บันทึกไว้ โดยนำมาจากสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไปในบัญชีเงินเดือนค่าแรงของฝ่ายผลิตอาหาร
สัตว์ที่เกิดขึ้น
ในระหว่างงวดที่คำนวณหาต้นทุนการผลิต
          ค่าโสหุ้ยการผลิต (ค่าใช้จ่ายในการผลิต) ต้นทุนในการผลิตอาหารสัตว์ทั้งหมดที่นอกเหนือจาก
วัตถุดิบทาง
ตรงและแรงงานทางตรง ซึ่งได้แก่ ของใช้สิ้นเปลือง วัตถุดิบทางอ้อม แรงงานทางอ้อม ค่าซ่อมแซม
และดูแลรักษา
ค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรและอุปกรณ์ ค่าเสื่อมราคาโรงงาน ค่าเบี้ยประกันภัย
โรงงานผลิตอาหารสัตว์ 
เป็นต้น ค่าโสหุ้ยการผลิตคำนวณจากบัญชีต่าง ๆ ที่จัดเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตอาหารสัตว์
ซึ่งบันทึกไว้ในสมุดบัญชี
แยกประเภททั่วไป ในช่วงระยะเวลาที่คำนวณต้นทุนการผลิตนั้น
          เมื่อคำนวณส่วนประกอบของต้นทุนการผลิตครบทั้ง 3 ส่วนแล้ว นำมาคำนวณต้นทุนการผลิต
สำหรับงวดได้ดังนี้
วัตถุดิบทางตรง                    
แรงงานทางตรง                   
ค่าโสหุ้ยการผลิต                 
รวมต้นทุนผลิตระหว่างงวด
xxx
xxx
xxx
xxx
          จากนั้นสามารถคำนวณต้นทุนการผลิตระหว่างงวดต่อหน่วยได้โดย นำต้นทุนการผลิตระหว่างงวดหารด้วย
จำนวนหน่วยของอาหารสัตว์ที่ผลิตเสร็จในงวดนั้น ดังนี้
                ต้นทุนการผลิตระหว่างงวดต่อหน่วย =                   ต้นทุนการผลิตระหว่างงวด               
                                                                    จำนวนหน่วยของอาหารสัตว์ที่ผลิตเสร็จในงวดนั้น
        2 . ต้นทุนการผลิตวันสิ้นปีบัญชี
           การคำนวณต้นทุนการผลิต ณ วันสิ้นปีนั้น จะต้องทำการตรวจนับวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์คงเหลือ และ
อาหาร
สัตว์สำเร็จรูป เพื่อใช้ประกอบการคำนวณต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ และต้นทุนขายสินค้าที่เกิดขึ้นในแต่
ละปี
           วิธีการคำนวณต้นทุนการผลิตวันสิ้นปีบัญชี คำนวณจากส่วนประกอบทั้ง 3 ส่วน ของต้นทุนการผลิต
เช่นเดียว
กับการคำนวณต้นทุนการผลิตระหว่างงวด จะแตกต่างกันในส่วนของการตรวจนับวัตถุดิบและอาหารสัตว์
สำเร็จรูปคง
เหลือ และวิธีคำนวณต้นทุนการผลิตซึ่งคำนวณต้นทุนแต่ละประเภทได้ดังนี้
           วัตถุดิบทางตรง วัตถุดิบทางตรงที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ คำนวณจากยอดวัตถุดิบอาหารสัตว์คงเหลือ
ตาม
ที่ตรวจนับได้ พร้อมกับตีราคาวัตถุดิบคงเหลือตามหลักเกณฑ์การตีราคาสินค้าคงเหลือที่กำหนดไว้ในระเบียบ
นาย
ทะเบียนสหกรณ์ ว่าด้วยการบัญชีของสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ซึ่งคำนวณได้ดังนี้
วัตถุดิบคงเหลือต้นปี
บวก ซื้อวัตถุดิบ  
       ค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบ  
รวมวัตถุดิบที่มีไว้เพื่อผลิต       
หัก วัตถุดิบคงเหลือสิ้นปี (ที่ตรวจนับได้)
ต้นทุนวัตถุดิบใช้ไป         
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
แรงงานทางตรง ใช้เงินเดือนและค่าแรงงานของฝ่ายผลิตอาหารสัตว์ ตามที่บันทึกไว้ในสมุดบัญชีแยกประเภท
ทั่วไป
ค่าโสหุ้ยการผลิต (ค่าใช้จ่ายในการผลิต) ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จัดเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตอาหารสัตว์ ได้แก่
ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าซ่อมแซมเครื่องจักร ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง, น้ำมันเตา ค่าของใช้สิ้นเปลือง ค่าเบี้ยประกันภัย
ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย ค่าใช้จ่ายกระสอบ ดอกเบี้ยจ่ายเงินกู้ ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรและอุปกรณ์ ค่าเสื่อมราคาโรงงาน
        
วิธีการคำนวณต้นทุนการผลิตที่เกิดจากต้นทุนทั้ง 3 ประเภท เป็นดังนี้
บวก   ซื้อวัตถุดิบ         
         ค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบ                  
                วัตถุดิบทั้งสิ้นที่มีไว้เพื่อผลิต
หัก     วัตถุดิบคงเหลือสิ้นปี 
วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
เงินเดือนและค่าจ้าง
ค่าโสหุ้ยการผลิต :
ค่าไฟฟ้า 
ค่าน้ำประปา 
ค่าซ่อมแซมเครื่องจักร  
ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง, น้ำมันเตา 
ค่าของใช้สิ้นเปลือง 
ค่าเบี้ยประกันภัย
ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย  
ดอกเบี้ยจ่ายเงินกู้     
ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรและอุปกรณ์
ค่าเสื่อมราคาโรงงาน  
ต้นทุนการผลิต  
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx
xxx 
xxx
วิธีการคำนวณต้นทุนการผลิตต่อหน่วยนั้น ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกับการคำนวณต้นทุน การผลิตระหว่างงวดต่อหน่วย คือ
ต้นทุนการผลิตต่อหน่วย =                ต้นทุนการผลิตทั้งสิ้น          
                                       จำนวนหน่วยของอาหารสัตว์ที่ผลิตได้
           อนึ่ง การคำนวณต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ต่อหน่วยนั้น คิดรวมถึงอาหารสัตว์ที่สูญเสียในระหว่างการผลิต
ว้ด้วย สหกรณ์จะต้องคำนวณต้นทุนการผลิตที่สูญเสียโดยนำต้นทุนการผลิตต่อหน่วยคูณกับจำนวนที่สูญเสีย เพื่อ
นำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการให้ถือเป็นสินค้าเสื่อมชำรุด นอกจากนี้สหกรณ์ควรทดสอบหา
อัตราการสูญเสียไว้เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการบริหารงานของสหกรณ์ต่อไป

การตลาด

กลยุทธ์ธุรกิจบริการสัตว์เลี้ยงแสนรัก

18พ.ย.

 ทุกวันนี้ไลฟ์สไตล์ของชีวิตผู้คนเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะ สภาพครอบครัวในปัจจุบันก็เปลี่ยนไปเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น บางคนพอมีกำลังฐานะทางเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะแยกบ้านออกมาอยู่เองเป็นส่วนตัว หรือไม่ก็ซื้อที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางไปทำงาน
บางคนอยู่คนเดียวมันก็เหงานะคะ ก็ต้องมีเพื่อนตัวน้อย อย่างน้องหมา น้องแมว เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนหย่อนใจ คลายเหงา เฝ้าบ้าน จากความน่ารัก น่าเอ็นดู ขี้อ้อน ขี้เล่น ของน้องหมา น้องแมว ก็ผูกมัดใจคนเลี้ยง ให้รักเอ็นดู เอาใจใส่ เสมือนหนึ่งว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวกันเลยทีเดียว นี่ก็คงจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ธุรกิจบริการสัตว์เลี้ยง” มีแนวโน้มว่าจะโตขึ้นเรื่อยๆ นะคะอาจารย์
ตอบ ครับคุณปุ๊ก จะเห็นได้ว่า ตอนนี้มีธุรกิจและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงผุดขึ้นมามากมาย ตั้งแต่ที่เพาะพันธุ์สัตว์ โรงพยาบาล อาหาร รับตัดแต่งขน ของใช้กระจุกกระจิกของสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงบริการที่ผสมผสานสิ่งที่มีอยู่เดิมให้แปลกใหม่ยิ่งขึ้น เช่น เสื้อผ้าสุนัขและแมวดีไซน์เก๋ ร้านกาแฟที่พาสัตว์เลี้ยงไปชิลด้วยได้ บริการเพ็ทแคร์และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงครบวงจร
ไม่เท่านั้นนะครับ ธุรกิจบริการสัตว์เลี้ยง ยังมีการบริการไว้สำหรับสัตว์เลี้ยงที่ไร้ลมหายใจแล้วด้วยนะครับ ลองนึกดูนะครับคุณปุ๊ก สมมุติว่าผมมีสัตว์เลี้ยงแสนรัก เวลาที่เขาตายไป ถ้าบ้านผมมีพื้นที่ที่เป็นพื้นดิน เป็นสวนข้างบ้านผมก็คงจะขุดหลุมฝังเขาไว้ในบ้าน มีป้ายชื่อของเขาทำเป็นแผ่นคอนกรีต หรือหินอ่อนวางไว้บนหลุม เวลาคิดถึงเขาก็มานั่งคุยกับเขาได้เรื่อยๆ
แต่ถ้าผมพักอาศัยอยู่ในบริเวณที่ไม่มีพื้นดินล่ะครับ เช่น ผมอยู่คอนโดมิเนียม อยู่ตึกแถว ทาวน์เฮาส์ในเมือง ผมจะเอาศพน้องหมาสุดที่รักของผมไปฝังที่ไหน  ผมอาจจะอยากทำพิธีสวดศพให้กับเขา มีพิธีเผาศพให้เขา มีการเอาเถ้ากระดูกของเขาไปลอยในแม่น้ำ แล้วก็เก็บเอากระดูกสำคัญของเขาไว้ทำพิธีบังสกุลทุกปี อยากทำพิธีแบบนี้ที่วัด หลายวัดก็อาจจะปฏิเสธ เป็นเรื่องใหญ่นะครับ สำหรับชีวิตของคนเมือง ที่รักสัตว์เลี้ยงของตนเองเสมือนเป็นสมาชิกครอบครัว
ถาม อาจารย์คะ ปุ๊กเคยได้ยินว่า มีผู้ให้บริการฌาปนกิจสัตว์เลี้ยง ภายใต้การดูแลของผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนร่วมกับวัด อย่างเช่น วัดธาตุทอง แล้วก็ยังมีบริการ รับ-ส่ง ร่างสัตว์เลี้ยงมายังวัด รวมทั้งพิธีกรรมทางศาสนา นับแต่การสวด การเผา เก็บกระดูก ลอยอังคาร จำหน่ายโลง และกล่องเก็บกระดูก ก็ถือว่าวันนี้ ธุรกิจบริการสัตว์เลี้ยงแสนรัก มีครบวงจรตั้งแต่เกิด จนถึงวันที่เขาจากเราไปเลยนะคะอาจารย์
ตอบ นั่นล่ะครับ คุณปุ๊ก อย่างที่ผมพูดอยู่เรื่อยๆ ว่า โอกาสทางธุรกิจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขอเพียงให้เข้าใจว่า ปัญหาและความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคืออะไร ตลาดอาจจะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม ของคนที่มีกำลังซื้อ และพร้อมที่จะใช้จ่ายเงิน เพื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองนะครับ
คุณปุ๊กครับ มูลค่าตลาดต่อปีของธุรกิจบริการสัตว์เลี้ยงมากกว่า 20,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตทุกปี ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20-25 นะครับ แบ่งออกเป็นมูลค่าตลาดประเภทสินค้า ประมาณ 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย อาหาร ขนม ประมาณ 7,000 ล้านบาท และเป็นมูลค่าตลาดของเสื้อผ้า และของเล่น ประมาณ 3,000 ล้านบาท และมูลค่าตลาดประเภทบริการ มีมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยธุรกิจประเภทบริการประกอบด้วย โรงพยาบาล/คลินิก สปา อาบน้ำตัดขน โรงเรียนฝึก โรงแรม บริการฌาปนกิจ และบริการอื่นๆ
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ธุรกิจบริการสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้น ก็คือ พฤติกรรมของคนเลี้ยงเปลี่ยนไป มีการใส่ใจเรื่องสุขอนามัยและจิตใจของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ประกอบกับ คนเราก็ต้องการเพื่อนที่จริงใจ และรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนแท้มากขึ้น ก็ให้ความสำคัญต่อการหาน้องหมา น้องแมวมาเลี้ยงเป็นเพื่อนนะครับ
ถาม อาจารย์คะ ไม่เคยคิดว่ามูลค่าตลาดบริการสัตว์เลี้ยงจะใหญ่โต ถึงปีละมากกว่า 20,000 ล้านบาทเลย นะคะ แบบนี้แสดงให้เห็นว่า คนที่รักน้องหมา น้องแมว ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองมากเลย ใช่มั๊ยคะ
ตอบ ผมว่ากลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ จะให้ความสำคัญต่อสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองกันเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะครับ มีงานวิจัยของนักศึกษาปริญญาโทภาคพิเศษ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หัวข้อ “4 ขา Marketing เปิดขุมทรัพย์หมื่นล้าน ตลาดโฮ่งเหมียว” มีผลการวิจัยที่น่าสนใจ ที่ขอนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
ผลการวิจัยพบว่า ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ใช้จ่ายเงินให้กับสัตว์เลี้ยง มากกว่า 1,000 บาท/ตัว/เดือน ซึ่งคิดเป็น 5-10 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ โดยเรียงลำดับค่าใช้จ่ายสูงสุด ดังนี้ 1. อาหาร 2. ค่ารักษาพยาบาล 3. ค่าอาหารเสริมและวิตามิน 4. ค่าเสื้อผ้า/อุปกรณ์ตกแต่ง 5. ค่าบริการอาบน้ำ-ตัดขน 6. บริการอื่นๆ เช่น โรงแรม สปา
ลงลึกไปในรายละเอียดของงานวิจัย เรื่องค่าใช้จ่าย ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ระบุ ยอมจ่ายค่าเสื้อผ้าเครื่องประดับ เป็นลำดับ 4 นั้น เนื่องจาก อยากให้สัตว์เลี้ยงของพวกเขาดูดีมีระดับ ส่วนแหล่งหาซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้กับสัตว์เลี้ยงนั้น มักเป็น Pet Shop หรือไม่ก็ห้างค้าปลีก
จากข้อมูลในประเด็นนี้อาจเป็นการชี้ให้เห็นโอกาสในทางธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบัน จำนวนร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ที่สามารถสร้างชื่อให้แบรนด์ตัวเองแข็งแกร่งนั้น ยังมีไม่มากนัก
คณะผู้วิจัยวิจัยมีข้อเสนอแนะว่า ความต้องการซื้อสินค้าเสื้อผ้า/เครื่องประดับ ของคนมีสัตว์เลี้ยง อาจเป็นโอกาสดีของผู้ทำธุรกิจด้านนี้ เพราะคนไทยมีฝีมือและเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ ที่ผ่านมา มีการผลิตสินค้าเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง มียอดส่งออกสูง แต่สิ่งที่ต้องคิดเป็นการบ้านต่อ คือ ทำอย่างไรให้สินค้ามีความแตกต่างและโดดเด่นกว่าที่มีอยู่ในท้องตลาด
ในงานวิจัยยังพบข้อมูลอีกว่า ผู้บริโภคที่มีความชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์ ยังมีพฤติกรรมที่มีความต้องการในส่วนของการบริการเฉพาะทาง เช่น โรงแรม-ที่พัก อนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ คุณปุ๊กลองนึกดูนะครับว่า เวลาที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัด เราก็อยากพาน้องหมา น้องแมวของเราไปเที่ยวด้วย จะปล่อยเขาไว้บ้าน หรือ ไปฝากเลี้ยงก็คงจะคิดถึงเขาน่าดู ถ้าโรงแรมที่พัก มีบริการจัดสถานที่รับเลี้ยงน้องหมา น้องแมว แล้วก็บริการอาบน้ำตัดขนให้ด้วย ผมว่า ก็เป็นการเพิ่มคุณค่าในการบริการและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่เข้ามาพักนะครับ เพียงแต่ต้องบริหารจัดการพื้นที่เฉพาะส่วนให้ดี เพราะลูกค้าหลายท่านอาจไม่ชอบที่จะเห็นมีน้องหมา หรือน้องแมวมาเดินเพ่นพ่าน ส่งเสียงดังรำคาญ ในช่วงเวลาที่ต้องการพักผ่อนนะครับ
สิ่งที่เราพบเห็นได้ในทุกวันนี้ก็คือ พฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภคมีแนวโน้มชอบความสะดวกสบายทั้งต่อตัวเองและสัตว์เลี้ยงมากขึ้น การอำนวยความสะดวกให้ผู้เลี้ยงได้มีกิจกรรมร่วมกันกับสัตว์เลี้ยง รวมถึงกระแสความนิยมตามๆ กันในกลุ่มผู้เลี้ยง สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นลู่ทางให้ผู้ประกอบการสามารถสรรหาสินค้าและบริการในด้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์และสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้นนะครับ
ถาม อาจารย์มีข้อแนะนำในเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจบริการสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่างไรบ้างคะ
ตอบ เนื่องจากเป็นธุรกิจบริการ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก็คือ ความสะดวกสบายของลูกค้า รวมถึงความปลอดภัยสัตว์เลี้ยงแสนรักด้วยนะครับ ผมขอแนะนำให้ลองใช้กลยุทธ์ DOG CAT ดูนะครับ
DOG CAT มาจากคำต้นของคำว่า
  1. DELIVERY ท่านต้องลองพิจารณาการบริการนอกสถานที่ดูนะด้วยนะครับ ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ให้บริการสัตว์เลี้ยงแสนรักในรูปแบบใด ผมว่าวันนี้ การบริการนอกสถานที่เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจแล้วล่ะครับ เป็นคลีนิคสัตว์แพทย์ ก็ต้องบริการตรวจรักษานอกสถานที่ได้ บริการอาบน้ำ-ตัดขน นอกสถานที่ บริการส่งอาหารน้องหมาน้องแมวถึงบ้าน บริการพาน้องหมา น้องแมวไปเดินเล่นนอกบ้าน บริการรับศพ เคลื่อนย้ายศพน้องหมาน้องแมวไปทำพิธีศพ
  2.  ONLINE ใช้ช่องทางการติดต่อสื่อสารออนไลน์ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่เพียงเฉพาะแค่เป็นช่องทางการติดต่อสั่งซื้อสินค้าเท่านั้นนะครับ เรายังสามารถใช้เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างกลุ่มผู้เลี้ยงที่เป็นลูกค้าของเรา และที่สำคัญถ้าผมเป็นสถานรับฝากเลี้ยงน้องหมา น้องแมว ผมต้องใช้ช่องทาง ONLINE ในการให้เจ้าของน้องหมา น้องแมว สามารถติดต่อถึงกันได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงนะครับ เช่น ผมมีกล้องวงจรปิด ผมมีระบบ VEDIO CHAT ที่สามารถให้น้องหมา น้องแมว เห็นหน้าเจ้าของ และพูดคุยกันได้ด้วยนะครับ
  3. GROUP จัดให้มีกิจกรรมสัมพันธ์ของกลุ่มลูกค้า และน้องหมา น้องแมว นะครับ แต่ก่อนอื่นท่านต้องทำให้แน่ใจก่อนนะครับว่า ท่านเป็นผู้ให้บริการที่ดี มีคุณภาพ และสามารถทำให้ลูกค้าประทับใจได้แล้วนะครับ จึงค่อยดำเนินกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ ท่านอาจจะจัดวัน รักน้องหมาน้องแมวขึ้นมาสัก ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อขอบคุณลูกค้า ที่ได้มาใช้บริการกับท่าน ที่สำคัญเป็นการสร้างกลุ่มของลูกค้าที่จะมีความจงรักภักดีกับธุรกิจของท่านมากขึ้นนะครับ
  4. CARE ท่านต้องใส่ใจในการดูแล น้องหมา น้องแมว ให้ได้รับความสะดวกสบาย และปลอดภัย อย่างดีที่สุดนะครับ ท่านต้องสนใจจดจำรายละเอียด มีความเข้าใจในจิตใจสัตว์เลี้ยง และผู้เป็นเจ้าของเป็นอย่างดี โดยคำนึงถึงในด้านของความรู้สึกเป็นสำคัญ นอกจากตัวผู้ประกอบการเองแล้วตัวพนักงานก็ต้องมีความเอาใจใส่ไม่แพ้กัน ซึ่งหากผู้ประกอบการมีการคัดเลือกบุคลากรที่ดี เลือกคนที่เลี้ยงสัตว์ รักสัตว์เข้ามาทำงาน และมีการฝึกอบรมพนักงานที่ดีและเป็นระบบก็จะทำให้กิจการหรือธุรกิจที่ทำมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริการด้วยแล้ว พนักงานถือเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจเลยทีเดียว
  5. ADAPT ท่านต้องมีความยืดหยุ่นในการให้บริการ การมีกฎเกณฑ์ เงื่อนไขในการให้บริการที่มากเกินไป ก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัดใจ และไม่กลับมาใช้บริการกับท่านอีก เจ้าของน้องหมา น้องแมว ทุกคนล้วนต้องการให้น้องหมา น้องแมวได้รับการบริการที่ดีที่สุด บนเงื่อนไขที่ต้องจ่ายแล้วคุ้มที่สุด ถ้าท่านที่เป็นผู้ประกอบการ ไม่ได้ให้อำนาจในการตัดสินใจ หรือการผ่อนปรนบางอย่างให้กับพนักงานของท่าน จะตัดสินใจอะไรต้องรอถามท่านผู้ประกอบการก่อน แบบนี้ก็มีความเสี่ยงที่ลูกค้าจะไม่กลับมาใช้บริการซ้ำนะครับ
  6. TRUST ท่านต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ด้วยความมุ่งมั่นในการที่จะรักษาและพัฒนามาตรฐานคุณภาพในการบริการให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ท่านต้องมีความสม่ำเสมอในการให้บริการที่ดี ระมัดระวังอย่าทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึก นะครับ

http://phongzahrun.wordpress.com/2013/11/18/%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2/
 http://www.cad.go.th/ewtadmin/ewt/cadweb_org/ewt_news.php?nid=10155

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น