หลักการแบ่งเกรดอาหารสุนัข PREMIUM GRADE
อาหารสุนัขยี่ห้อต่างๆ ในปัจจุบัน(2007) นั้น แต่ละบริษัทก็ทำการตลาดด้วยการผลิต อาหารสุนัขที่มีเกรดดีขึ้นกว่าเเต่ก่อน และตั้งต้นด้วยการผลิตสินค้าที่มีเกรด Premium เป็นอย่างน้อย
เกรดพรีเมี่ยม คือ การที่นำส่วนผสมต่างๆ ที่ถูกคัดสรรแล้วว่าค่อนข้างดี มาปรุงแต่งเป็นสินค้า โดยมีวัตถุประสงค์ในการขาย ให้กับผู้ซื้อระดับกลางขึ้นไป ดังนั้นสินค้าต้องมีมาตรฐานที่ดีพอสมควร และ มีความสะอาด มีการรับรองสินค้า (การันตี) และ มีส่วนผสม สารอาหารครบถ้วนตามที่ระบุด้านข้าง มีการบ่งบอกอายุสินค้า มีการระบุสถานที่ผลิต และเบอร์โทรฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ อีกด้วย]
โฮลิสติก คือเกรดสินค้าอาหารที่มีส่วนผสมของอาหาร เช่น โปรตีนจากเนื้อไก่ แกะ และปลาเเซลมอน หรือ อื่นๆ ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าเกรดพรีเมี่ยม โดยวิเคราะห์จากกรดอะมิโนต่างๆ ที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และพัฒนาการของสุนัข เพื่อให้ได้สุขภาพที่แข็งแรงที่สุด บางยี่ห้ออาจจะมีส่วนผสมของ กรดไขมัน ประเภท DHA อีกด้วยคะ จากนั้นส่วนผสมที่ใส่เพิ่มลงไป จะเป็นพวกพืชที่มีประโยชน์ และวิตามินบางตัว เพื่อให้อาหารนั้นมีคุณค่าครบทุกด้าน
ในบางยี่ห้อนั้น จะแบ่งสูตรอาหารโฮลิสติก ออกเป็นหลายๆ สูตร อันนี้ไม่ได้ระบุในเกรดว่าจะต้องแบ่ง แต่เป็นข้อเสนอ ที่ทางบริษัทผู้ผลิตนำเสนอให้กับกลุ่มลูกค้า เช่น สูตรบำรุงรักษาผิวหนัง และขน สำหรับสุนัขที่ต้องการขนสวยมากๆ ก็จะใส่ส่วนผสมที่มีคุณค่าด้านผิวหนัง และขนมากกว่า ส่วนผสมอื่นๆ (ซึ่งส่วนผสมด้านอื่นๆ จะน้อยลงไป) ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มีอีกหลายๆ สูตร แต่ไม่ใช่สาระสำคัญของเกรดอาหาร
ULTRA HOLLISTIC เกรดนี้คล้ายๆ กับ เกรดฮอลลิสติก คะ เพียงแต่คุณค่าทางสารอาหารจะมีมากกว่า เกรดโฮลิสติก และมีการเลือกสรรวัตถุดิบ ที่ส่งเสริมจุดเด่นด้านนี้ ยกตัวอย่างเช่น ปลา 1 ตัว แต่ละส่วนของปลาก็มีคุณค่าไม่เท่ากัน จึงเลือกส่วนที่มีคุณค่ามากๆ มาใช้ ทำอาหาร เป็นต้น เกรดนี้ ก็มีการแบ่งเป็นสูตรย่อยๆ อีก เหมือนฮอลลิสติก เช่นเดียวกัน
ORGANIC GRADE สั้นๆ ง่ายๆ สำหรับผลิตภัณฑ์เกรดนี้ คือ การเลือกสรรวัตถุดิบ ต้องมาจากฟาร์ม หรือแหล่งผลิตที่ผลิตตามธรรมชาติ คือ ไม่มีการใช้สารเคมี สารเร่ง อะไรทั้งสิ้น ดังนั้นการผลิต จึงมีความลำบากในเรื่องของปริมาณการผลิต ที่ได้ผลผลิตน้อยกว่าแบบอื่นๆ ดูแลลำบากกว่า แต่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ไม่ต้องการอาหารที่มีวิทยาศาสตร์ปน หรือมีเคมีปนลงไปเลย ดังนั้น ในเมื่อ จำนวนวัตถุดิบมีน้อย แต่ความต้องการของตลาดมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ราคาวัตถุดิบถีบตัวสูงขึ้น และ ราคาสินค้าอาหารชนิดนี้ ก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ตามไปด้วย
|
โดย Dr.Karen Becker (สัตวแพทย์) |
เครดิต http://www.ladysquare.com/forum_posts.asp?TID=100851
|
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557
เกรดอาหารสุนัข
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น